เพื่อให้ซื้อขายอย่างประสบความสำเร็จ คุณต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ นักเทรดแต่ละรายจะเข้าหาตลาดด้วยวิธีที่ต่างกันเล็กน้อย โดยอ้างอิงจากข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิดในการซื้อขายในตลาด นักเทรดแต่ละรายต้องรู้ถึงความเสี่ยงที่พวกเขาสามารถแบกรับได้อย่างเต็มใจ
การที่รู้ว่าคุณเป็นนักเทรดประเภทใดมีความสำคัญมาก คุณอยากนักเทรดที่เป็นระบบ หรือชอบอยู่ในตลาดในช่วงที่มีความผันผวน คุณกำลังมองหาการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง หรือต้องการขจัดสิ่งรบกวนในระยะสั้นอย่างราบรื่นเพื่อใช้ประโยชน์จากผลกำไรในระยะยาว
ความเสี่ยงคือ 'ความแปรปรวนของผลตอบแทนจากการลงทุนหรือโอกาสที่ผลตอบแทนที่แท้จริงของการลงทุนจะแตกต่างไปจากที่คาดไว้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นบางส่วนหรือทั้งหมด โดยทั่วไปแล้วจะวัดโดยใช้ผลตอบแทนย้อนหลัง หรือผลตอบแทนเฉลี่ยสำหรับการลงทุนเฉพาะ ยิ่งความแปรปรวนของการลงทุนสูง (เช่น ความผันผวนของราคาหรือดอกเบี้ย) ความเสี่ยงก็จะยิ่งมากขึ้น'
ความผันผวนที่เราเห็นในราคารายวัน รวมกับเลเวอเรจที่มีอยู่ในตลาดนอกการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (หรือฟอเร็กซ์) เมื่อเทียบกับเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ เช่น หุ้น เป็นสาเหตุให้ฟอเร็กซ์ถูกจัดประเภทว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากนักลงทุนมักไม่ชอบความเสี่ยง การลงทุนที่มีความเสี่ยงโดยธรรมชาติมากขึ้นจะต้องให้ผลตอบแทนที่คาดหวังที่สูงขึ้นเพื่อรับประกันความเสี่ยงเพิ่มเติม หลายคนกล่าวเสริมว่า ความเสี่ยงที่สูงขึ้นหมายถึงโอกาสในการรัับผลตอบแทนสูงหรือโอกาสในการขาดทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความเสี่ยงสูงเสมอไป
การจำแนกความเสี่ยงแบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก:
ถึงตอนนี้ เราได้ระบุประเภทความเสี่ยงหลักสองประเภทแล้ว มาดูความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นกันต่อไป
สิ่งนี้หมายถึงความเสี่ยงที่ประเทศจะไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินของตนได้ เมื่อประเทศหนึ่งผิดนัดชำระเงิน อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินอื่นทั้งหมดในประเทศอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน ความเสี่ยงของประเทศมีผลกับหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม สัญญาในการซื้อขายล่วงหน้า ตลาดซื้อขายล่วงหน้า และที่สำคัญที่สุดคือ สกุลเงินที่ออกภายในประเทศนั้น ความเสี่ยงประเภทนี้มักพบในตลาดเกิดใหม่ หรือประเทศที่มีการขาดดุลอย่างรุนแรง
เมื่อมีการลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผันผวนของประเทศทีมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด และอาจทำให้ราคาของสกุลเงินหลักเคลื่อนตัวได้อย่างมากอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เชื่อมโยงโดยตรงกับปอนด์อังกฤษ (GBP) มีผลกระทบต่อการซื้อขายของยูโร (เช่น EUR/USD อาจมีปฏิกิริยาคล้ายคลึงกับ GBP/USD แม้ว่าจะเป็นคู่สกุลเงินที่แยกและไม่เหมือนกัน) การรู้ว่าประเทศใดมีผลกระทบต่อคู่สกุลเงินที่คุณซื้อขาย มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในระยะยาว
อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงในช่วงระยะเวลาที่เปิดการซื้อขาย จะส่งผลต่อจำนวนดอกเบี้ยที่คุณอาจจ่ายต่อวันจนกว่าการซื้อขายจะปิด การซื้อขายที่เปิดอยู่ที่การทบต้น จะได้รับการคิดทั้งค่าธรรมเนียมดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของการซื้อขายที่เปิดอยู่ และในระดับอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่เกี่ยวข้อง หากขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า คุณจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยรายวัน ณ เวลาที่ทบต้นตามนโยบายทบต้น/ดอกเบี้ยจากโบรกเกอร์ของคุณ โปรดปรึกษาโบรกเกอร์ของคุณสำหรับข้อมูลเฉพาะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำความเข้าใจความเสี่ยงจากดอกเบี้ย สำหรับรายละเอียดทั้งหมดของนโยบาย รวมถึงเวลาของการทบต้น ราคาดอกเบี้ย (หรือที่เรียกว่าสวอป) และข้อกำหนดของบัญชีเพื่อรับดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับบัญชีของคุณ
สิ่งนี้แสดงถึงความเสี่ยงซึ่งเหตุการณ์ด้านเศรษฐกิจ หรือการเมืองของประเทศจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับประเทศนั้นทันที และอย่างรุนแรง อีกตัวอย่างหนึ่งของความเสี่ยงนี้คือการแทรกแซงของรัฐบาล ซึ่งเราเห็นโดยทั่วไปในญี่ปุ่น และความจำเป็นในการรักษาราคาสกุลเงินให้ต่ำเพื่อหนุนการส่งออก
นี่คือความเสี่ยงที่คุ้นเคยที่สุดที่เราได้พูดคุยกัน และจากข้อมูลบางส่วน มีความเสี่ยงหลักที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ความเสี่ยงด้านตลาด คือ ความผันผวนของราคาคู่สกุลเงินในแต่ละวัน เรียกอีกอย่างว่าความผันผวน แม้ความผันผวนไม่ได้เป็นสาเหตุหลัก แต่เป็นผลมาจากกลไกตลาดบางอย่าง ความผันผวนเป็นตัววัดความเสี่ยง เพราะหมายถึงพฤติกรรมหรือ 'อารมณ์' ของการลงทุนของคุณมากกว่าเหตุผลของพฤติกรรมนี้ เนื่องจากความเคลื่อนไหวในตลาดเป็นเหตุทำให้ผู้คนสามารถทำเงินได้ ความผันผวนจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลตอบแทน และยิ่งคู่สกุลเงินไม่มีเสถียรภาพมากเท่าใด โอกาสที่สกุลเงินจะทำเงินได้ก็จะสูงขึ้นมากเท่านั้น
สิ่งนี้เป็นความเสี่ยงเฉพาะที่นักเทรดจำนวนมากไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันมากนัก อย่างไรก็ตาม ด้วยที่นักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อยส่วนใหญ่ที่ทำการซื้อขายออนไลน์ และเราทุกคนล้วนพึ่งพาเทคโนโลยี คุณมีวิธีป้องกันความล้มเหลวของเทคโนโลยีได้หรือไม่? คุณมีบริการอินเทอร์เน็ตสำรองหรือไม่? มีคอมพิวเตอร์สำรองที่คุณสามารถใช้งานได้หากคอมพิวเตอร์เครื่องหลักขัดข้องหรือไม่?
อย่างที่เห็นไปแล้ว มีความเสี่ยงหลายประเภทซึ่งนักลงทุนที่ชาญฉลาดควรพิจารณา และเอาใจใส่ในการซื้อขายของตนอย่างรอบคอบ
ความสมดุลของความเสี่ยง/ผลตอบแทนสามารถเรียกได้ว่าเป็นการทดสอบความด้านทานของการขาดทุน การตัดสินใจเลือกความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ในขณะที่ปล่อยให้ตัวเองเดินจากคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องกังวล และพักผ่อนในตอนกลางคืนในขณะที่คุณเปิดการซื้อขายระยะยาว คือการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดของนักเทรด ความสมดุลของความเสี่ยง/ผลตอบแทนคือความสมดุลที่นักเทรดต้องตัดสินใจระหว่างความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้สำหรับผลตอบแทนสูงสุด โปรดอย่าลืมว่า ระดับความไม่แน่นอนในระดับต่ำ (ความเสี่ยงต่ำ) สัมพันธ์กับผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นได้ต่ำ และระดับความไม่แน่นอนในระดับสูง (ความเสี่ยงสูง) สัมพันธ์กับผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นสูง การซื้อขายเป็นเรื่องของความเสี่ยง และความน่าจะเป็น การทำความเข้าใจการทำงานภายในของกลยุทธ์การซื้อขายฟอเร็กซ์ และตำแหน่งคำสั่งเข้า และออกที่เหมาะสม จะช่วยในการจำกัดความเสี่ยงของคุณ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้สูงสุดได้
คุณจะวางการซื้อขาย หรือจำนวนล็อตต่อการซื้อขายแต่ละครั้งในบัญชีซื้อขายเท่าใด หรือคุณสูญเงินในบัญชีไปใดในการซื้อขายครั้งเดียว? บัญชีของคุณสามารถขาดทุนในการซื้อขายครั้งเดียวได้เท่าใด? มันมากเกินไปที่รับไหวหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น อาจหมายถึงว่า คุณไม่ได้ใช้การจัดการความเสี่ยง และเลเวอเรจการซื้อขายของคุณอย่างเหมาะสม การกำหนดระดับของเลเวอเรจที่เหมาะสมและข้อกำหนดมาร์จิ้นที่เหมาะสม และสอดคล้องกัน คือส่วนสำคัญของการจัดการความเสี่ยง
เช่นเดียวกับที่อาหารโปรดแค่จานเดียวไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ไม่มีระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับทุกคน มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถกำหนดระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง คุณต้องหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างปริมาณความเสี่ยงที่ต้องการแบกรับ กับปริมาณความเสี่ยงที่ทำได้จริง บ่อยครั้งที่นักลงทุนคิดว่าพวกเขาเต็มใจที่จะเสี่ยง แต่เมื่อมีสิ่งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น พวกเขากลัับคิดว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด
คุณอาจขาดทุนในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ แต่ถ้าการขาดทุนนี้ช่วยให้คุณบรรลุความเข้าใจในระดับนี้ คุณก็ควรจ่ายสำหรับการขาดทุนแบบนี้ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดจำนวนเงินล่วงหน้าที่คุณยินดีจะ 'จ่าย' เพื่อการศึกษา บทเรียนและอารมณ์ทางการเงินเป็นแหล่งข้อมูลการซื้อขายอันมีค่า และเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้จ่ายมากที่สุดในช่วงลองผิดลองถูกนี้
แต่ละคนจะมีความสามารถแบกรับความเสี่ยงต่างกัน ความสามารถไม่เคยคงที่ มันจะเปลี่ยนไปพร้อมกับทักษะและความรู้ เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น ความสามารถแบกรับความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้น อย่าปล่อยให้สิ่งนี้หลอกล่อคุณ อย่ายึดติด และให้คิดเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเงินที่เหมาะสม
พวกเราทุกคนได้ยินมาว่า การกระจายการลงทุนเป็นนโยบายที่ดีที่สุดสำหรับพอร์ตการลงทุนโดยรวม สิ่งนี้คือเรื่องจริงในการลงทุนที่มุ่งเน้นสกุลเงินของเราอีกด้วย เพื่อให้การกระจายการลงทุนที่ดี เราควรช่ำชองในการใช้งานกลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลายรวมถึงคู่สกุลเงินหลายคู่ เพื่อให้ผลตอบแทนโดยรวมของเราเท่ากัน กลยุทธ์การซื้อขายบางอย่างมีความแม่นยำ 80% ในเงื่อนไขตลาดที่เฉพาะ อย่างไรก็ตาม นักเทรดเต็มเวลาต้องใช้งานมากกว่ากลยุทธ์เดียว เนื่องจากหลายครั้งที่มีช่วงเวลายาวนานเมื่อการซื้อขายไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ช่วงเวลาดังกล่าวสามารถเป็นไปได้ทุกอย่าง ตั้งแต่สองถึงสามวันไปจนถึงหลายเดือน กลยุทธ์ที่สามารถให้ผลกำไรเพียงส่วนเล็ก ๆ ของปีนั้นดีอย่างไร? การกระจายการลงทุนอาจเป็นคำตอบ:
การกระจายการลงทุนของคุณไม่ใช่หัวข้อการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในความเป็นจริง หลายคนเชื่อว่าการกระจายการลงทุนจะทำให้รับผลกำไรน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ถึงแม้มันจะไม่รับประกันว่าจะไม่ขาดทุน แต่การกระจายความเสี่ยงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวพร้อมกับการลดความเสี่ยงได้ แต่โปรดอย่าลืมว่า คุณจะทำการกระจายความเสี่ยงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถลดความเสี่ยงลงเหลือศูนย์ได้
คุณจำเป็นต้องทำสิ่งใดเพื่อมีพอร์ตการลงทุนที่กระจายได้ดี? 3 แง่มุมเพื่อให้มั่่นใจในการกระจายการลงทุนได้ดีที่สุด:
อีกคำถามหนึ่งที่ผู้คนมักถาม คือ ควรซื้อขายคู่สกุลเงินกี่คู่เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอหนึ่งสำหรับหุ้นบอกเราว่า หลังจากหุ้นที่กระจายตัว 10-12 ตัว คุณก็เข้าใกล้การกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามในตลาดสกุลเงิน ไม่ได้หมายความว่าการซื้อคู่สกุลเงิน 12 คู่จะทำให้คุณมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีที่สุด แต่แนะนำให้ซื้อขายสกุลเงินในภูมิภาค และระดับความสำคัญที่หลากหลาย (เช่น คู่สกุลเงินหลัก ไขว้ และสกุลเงินเกิดใหม่มากกว่า)
กำลังโหลดการวิเคราะห์ล่าสุด...
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อเริ่มการแชท
Live แชทไม่สามารถใช้ได้ในขณะนี้ โปรดลองอีกครั้งในภายหลัง
นโยบายความเป็นส่วนตัว | เอกสารทางกฎหมาย | คุกกี้
กฎหมาย: HF Markets (SV) Ltd จัดตั้งขึ้นในประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ในฐานะบริษัทธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมีหมายเลขจดทะเบียน 22747 IBC 2015
เว็บไซต์นี้ดำเนินการและให้บริการเนื้อหาโดยบริษัทในเครือ HF Markets ซึ่งรวมถึง:
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การเทรดผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น ฟอเร็กซ์และอนุพันธ์ อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อเงินทุนของคุณ กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์การลงทุนและระดับประสบการณ์ของคุณ ก่อนทำการเทรด และหากจำเป็น ให้ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ กรุณาอ่านการเปิดเผยความเสี่ยงฉบับเต็ม
HFM ไม่มีบริการสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในเขตอํานาจศาลบางแห่ง รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา ซูดาน ซีเรีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และอื่นๆ
We have detected that you are visiting our website from the United States
Please be advised that we do not offer any of our services to U.S. citizens or residents.
You may continue navigating our website if YOU ARE NOT a U.S. citizen or resident, otherwise, you may leave this site.