สกุลเงินต้องเทรดเป็นคู่เสมอโดยในหนึ่งคู่ประกอบด้วย สกุลเงินฐาน และ สกุลเงินอ้างอิง

7 คู่สำคัญที่มีการเทรดสูงสุด คือคู่หลัก โดยทุกคู่ล้วนมีสกุล USD ร่วมอยู่ด้วยอย่าง Eur, JPY, GBP, AUD, CHF, CAD และ NZD

คู่รองคือคู่ที่เกี่ยวข้องกับสามสกุลเงินหลักดังนี้ EUR, JPY, GBP โดยจะไม่มี USD คู่ด้วย

เกือบทุกอย่างล้วนมีผลต่อตลาด - ข่าว อารมณ์ตลาด และคำซุบซิบล้วนสามารถส่งผลต่อตลาด อัตราดอกเบี้ย อัตราว่างงาน เงินเฟ้อ และรายได้ของบริษัทก็ล้วนส่งผลเช่นกัน โดยเฉพาะคู่ FX คือกุญแจสำคัญที่จะเป็นตัวสะท้อนถึงความมั่นใจภายในประเทศนั้น ไม่เฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจเท่านั้นยังรวมถึง ปัจจัยพื้นฐานและความอ่อนไหวทางอารมณ์ล้วนสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด

การติดตามข้อมูลทั้งหมดนี้อาจเพียงพอแล้ว แต่คุณควรโฟกัสเฉพาะเหตุการณ์ที่สำคัญ

ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ในชีวิตของเราและในการเทรดก็เช่นกัน คุณต้องจัดการและลดความเสี่ยงของคุณให้เหลือน้อยอยู่เสมอ ด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยทั้งหมดแล้ว กฏข้อที่ 1 คือ เทรดเฉพาะในสิ่งที่คุณสามารถรับความสูญเสียได้ เมื่อทำได้อย่างนี้ความสูญเสียในบัญชีของคุณจะอยู่ในเปอร์เซ็นที่ต่ำ กฎอีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กันคืออย่าลืมตั้ง Stop Loss

ในขณะที่ความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการกับความเสี่ยง เทคนิคอล และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะเป็นส่วนช่วย อย่างไรก็ตามคุณจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ การควบคุมอารมณ์ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในขณะที่ทำการเทรด ถ้าคุณไม่รู้จักตัวเองมันก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ จึงควรใช้เวลาทำความเข้าใจและค้นหา กรอบเวลาและสไตล์การเทรดที่เหมาะกับคุณ

สองแนวคิดหลักที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้ก่อนทำการเทรด

Leverage: ความสามารถในการควบคุมเงินจำนวนมากโดยใช้เงินของคุณเพียงเล็กน้อย และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืม การควบคุมโพซิชั่นขนาด $100,000 โบร๊กเกอร์ของคุณจะกัน $1,000 ในบัญชีของคุณไว้เป็นหลักประกัน ดังนั้น Leverage สำหรับโพซิชั่นนี้ซึ่งปกติจะมาในรูปของอัตราส่วนเสมอ จึงเป็น 1:100 Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมจึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง

คำสั่ง Stop Loss: ถูกออกแบบมาเพื่อจำกัดจำนวนเงินที่จะเสียในแต่ละโพซิชั่น โดยโพซิชั่นจะถูกปิดเมื่อราคาวิ่งมาถึงจุดที่เรากำหนดไว้